เป็นห่วงเด็ก…เป็นห่วงประเทศไทย

จากเรื่อง วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป….ของคนดอยที่ไชยปราการ จากเรื่อง เมล์เก่าในอดีต….ที่ไชยปราการ กลับไปพักที่ไชยปราการ เมื่อปลายเดือนมกราคม ๒๕๕๔ ที่ผ่านมา ทำให้ทราบข่าวคราวต่าง ๆ ที่ไชยปราการ ส่วนใหญ่เป็นไม่ค่อยดีที่เกี่ยวกับยาเสพติดในแถบ ๔ อำเภอโซนเหนือของเชียงใหม่ คือ ฝาง แม่อาย ไชยปราการ และเชียงดาว นั่นคือปัญหายาบ้า (รวมทั้งชายแดนของจังหวัดเชียงราย คือ แม่จัน แม่สลอง แม่สรวย และแม่สาย) ทราบข่าวว่าชาวบ้านป่าหนาถูกจับเพิ่มเติม ซึ่งดูจากสถานภาพทางครอบครัว ก็คงไม่แปลกที่ถูกจับ เพราะทั้งญาตพี่น้องรวย ๆ กว่าชาวบ้านชาวดอยทั่วไป คนที่เคยถูกจับเมื่อปีที่แล้ว ก็ได้รับการปล่อยตัวกลับออกมา แล้วก็มีคนถูกจับเข้าไปใหม่อีก ต้องบอกตรง ๆ ในฐานะคนที่เคยทำงานในพื้นที่ว่า มันกลับมา และปัญหายาเสพติดนี้รุนแรง เหมือนเดิมเมื่อหลายปีก่อนที่มีการฆ่าตัดตอนกัน อดเป็นกังวลกับชีวิตของเด็ก ๆ ไม่ได้ ที่ต้องเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่หดหู่ นอกจากใช้ชีวิต ทำมาหากินอย่างลำบากแล้ว สภาพแวดล้อมต่าง ๆ มันแวดล้อมไปด้วยเรื่องที่อาจจะชักชวนให้คนดี ๆ ต้องสูญเสียความดีไป เป็นกังวลที่เด็ก ๆ หลาย

เมล์เก่าในอดีต…ที่ไชยปราการ

ข้อความในเมล์เก่า ๆ ที่ส่งข่าวครูอาสา ตัดชื่อจริงนามสกุลจริงออก ภาพประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อหาในเมล์นี้ใด ๆ ทั้งสิ้น Date: Tue, 3 Nov 2009 03:14:57 -0800 From: suwan_phutphan at yahoo dot com Subject: เมื่อวานไปศาลแขวงเยาวชนเชียงใหม่มาครับ เรื่องคือ มีเด็กชนเผ่าลาหู่ที่บ้านป่าหนา เพิ่งได้บัตรประชาชนแล้วโดนชักชวน ไปทำงานในตัวจังหวัดเชียงใหม่ โดยเพื่อนรุ่นพี่เมื่อเดือน กันยายน 52 ที่ผ่านมา พอถึงตัวเมืองเชียงใหม่ ไม่มีงานทำ เพื่อนรุ่นพี่ที่ชวนไป ก็เลยถามว่าจะหางานทำต่อ หรือจะกลับบ้าน เด็กคนนี้เลยบอกจะกลับบ้าน เพื่อนรุ่นพี่ที่ชวนไปบอกว่า ไม่มีเงินค่ารถ ถ้าอยากได้เงินค่ารถกลับบ้าน ให้ถือ “ยาบ้า 40 เม็ด” ให้จะ พาไปหาเงินค่ารถกลับบ้าน แล้วก็โดนจับทั้ง 2 คน ผมไปเยี่ยมที่สถานพินิจ เมื่อเดือนกัยยายน ก็ได้สอบถามความเป็นไป ทางสถานพินิจได้สอบปากคำผมไว้ในฐานะที่เป็นครู ที่เคยอยู่ในชุมชนนั้น (ปัจจุบันไม่ได้สอน) โดยผมแจ้งทางสถานพินิจว่า

ตุ๊กแก ชีวิตมีค่าเพื่อรักษาโรคของมนุษย์

ลงดอยมาเมื่อเดือนสิงหาคม ได้พบกับครูจะแนะ (ธนพงษ์) บ้านห้วยหวาย ได้แจ้งผมว่าผ่านขึ้นไป ศศช.ห้วยหวาย ทางอำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เห็นจุดรับซื้อตุ๊กแก โดยจะซื้อตามขนาดและน้ำหนักตัว ถ้าน้ำหนัก ๒ ขีด ตัวละ ๓๐๐ บาท ถ้าน้ำหนัก ๓ ขีดตัวละ ๕๐๐ บาท ถ้าใหญ่กว่านั้นจะราคาแพงขึ้นไปอีก (แล้วมันจะเหลือให้จับเหรอ) พอไปไชยปราการ ระหว่างที่ไปพัก ก็ได้ยินได้ฟัง แพงกว่าจุดรับซื้อที่อำเภอสบเมยอีก น้ำหนักตัว ๒ ขีดตัวละ ๕๐๐ ถ้าเกิน ๓ ขีด ตัวละเป็น ๑,๐๐๐ เลย โหราคาดีจังเลย แล้วบ้านพักที่ไชยปราการ ก็มีตุ๊กแกคอยเฝ้าบ้านให้ด้วย ไม่รู้ว่าเดือนหน้ากลับไป จะได้พบกับสัตว์เฝ้าบ้านหรือเปล่าก็ไม่รู้ คำรำลือนี้ ได้รับการยืนยันอีกครั้งจากคนที่อำเภอสันทราย บอกว่าขายกันตัวละ ๑,๐๐๐ – ๒,๐๐๐ กันทั้งนั้น ก็อำเภอสันทรายมันเป็นรอบนอกของเมืองเชียงใหม่จะไปหาตุ๊กแกมาจากไหน ได้ทราบต่อมาว่า ที่รับซื้อไปเป็นออเดอร์มาจากประเทศจีนและเกาหลี ทำให้สัตว์ชนิดนี้ต้องสังเวยชีวิตเพื่อรักษาชีวิตมนุษย์ จากโรคร้ายต่าง

วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป….ของคนดอยที่ไชยปราการ

เมื่อกลับบ้านพักที่ไชยปราการเดือนกันยายน ๒๕๕๓ ได้พบปะสนทนากับครูผู้ช่วยท่านหนึ่ง ที่ได้รับการจ้างงานจากบริษัทเอกชน ให้ช่วยสอนที่บ้านป่าหนา ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ผมเคยไปสอน สมัยที่ลาออกจากเป็นคนกรุงเทพฯ มาเป็นครูดอยใหม่ ๆ ระยะเวลาแค่ ๑ ปีชนเผ่าหมู่เซอที่ไชยปราการเปลี่ยนไปมากเหลือเกินครับ ผมไปเป็นครูอาสาเมื่อกลางปี ๕๐ ทั้งหมู่บ้านมีรถยนต์เพียง ๓ คัน พอปี ๕๒ รถยนต์พุ่งพรวดขึ้นเป็น ๘ คัน หากติดตามข่าวสารเป็นระยะจะสังเกตุได้ว่า ๓ อำเภอโซนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ฝาง แม่อาย และไชยปราการ จะมีข่าวจับยาเสพติดบ่อยมาก จึงไม่ต้องสงสัยว่าอะไรเป็นสาเหตุของความเปลี่ยนแปลงในวิถีชีวิตของเผ่ามูเซอ ทั้งนี้รวมไปถึงอำเภอติดชายแดนของจังหวัดเชียงราย ไม่ว่าจะเป็น แม่สาย แม่จัน แม่ฟ้าหลวง แม่สรวย และอำเภอเมืองเชียงราย หลาย ๆ หมู่บ้านที่ กศน.ทำงานเราที่เป็นครู ก็รู้ทั้งรู้ แต่ต้องคิดอยู่เสมอว่า อย่าไปยุ่งกับยาเสพติด และอย่าให้ยาเสพติด มายุ่งกับเรา หลายหมู่บ้านผู้นำหรือญาติผู้นำเหล่านั้นเป็นผู้ที่ถูกเพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่บ้านเมือง แต่ด้วยความที่เป็นผู้นำชุมชน บางคนเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้ช่วย ทำให้หน่วยงานราชการต่างเกรงใจ และในเทศกาลกินข้าวใหม่ในเดือนตุลาคม และเทศกาลกินวอของชนเผ่าลาหู่ จะมีผู้นำจากพื้นราบ กำนัน

หัวใจคือเหตุผล

กาล…คลานหวังพบประสบพักตร์ หวัง…รู้จักทักถ้อยร้อยสหาย แบ่งปัน…น้ำจิตมิตรรักด้วยทักทาย ถึง…สิ่งหมายคือมิตรคิดจริงใจ -กลั่นกรองเป็นอักษร..ฝากคำอ้อนคล้องรักแทนพวงมาลา(ใจ)- คงไม่สามารถที่จะหาถ้อยคำใดๆมาเปรียบหรือเทียบได้กับความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งบนโลกใบใหญ่แห่งนี้ได้หรอกค่ะ นอกจากจะบอกว่าขอบคุณทุกๆคนที่มีจิตที่เป็นมิตร ด้วยจิตที่บริสุทธิ์จนก่อเกิดผลผลิตที่งอกงามที่ส่งต่อพร้อมส่งสื่อออกมาทางแววตา และการกระทำด้วยน้ำใจมิตรไมตรีที่มีต่อกันด้วยสิ่งที่ร่วมกระทำกันมาจึงทำ ให้รู้ว่าบนโลกใบใหญ่นี้ยังมีคนกลุ่มเล็กๆที่มีพลังใจในความเอื้ออาทร และความรักแฝงอยู่….ให้ยิ่งผูกพัน คอยห่วงหาอาทร มันไม่เคยเปลี่ยนไป ตามกาลเวลามีแต่เพิ่ม….ความรู้สึกดีๆที่ยิ่งใหญ่ที่เกิดขึ้นในวันนั้นยัง ส่งต่อมาถึงวันนี้ และวันอื่นๆอีกต่อไปโดยที่ไม่มีคำนิยามใดๆมาพรากได้ ขอบคุณจริงๆค่ะขอบคุณทุกๆ คนที่ร่วมกันสร้าง ร่วมกันลงมือ จนเกิดสิ่งที่ดีขึ้นทั้งภายนอกและภายใน(จิตใจ) ^.^-ฟางข้าว-^.^

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.