บางทีเวลาก็ไม่ใช่ตัวแปรในการที่เราจะผูกพันกับใคร

เมื่อได้เห็นโครงการ “ลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย” ไม่รอช้าในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรมแต่ก็แอบคิดกับตัวเองว่านี่ฉันจะเอาอะไร ไปสอนเด็กได้เนี้ย มีการปรึกษาครูต้อมอยู่หลายครั้งจนครูต้อมบอกว่า “ไม่มีอะไรสอนก็ไปให้เด็กสอนภาษาลาหู่ก็ได้ครับ”

การได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ในระยะเวลาเพียงแค่ ๔ วัน ใครจะรู้ว่ามีเรื่องราวหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย เกินคุ้มกับการลางาน ๒ วัน ต้องยอมรับว่าการเข้าร่วมในครั้งนี้สิ่งแรกที่ได้รับคือ มิตรภาพจากคนที่ไม่เคยรู้จักกันเลยกลับกลายเป็นเพื่อนร่วมทาง และกลายเป็นมิตรภาพที่แสนดี และภาพแรกที่เห็นเมื่อพวกเราไปถึงบ้านแม่ฝางหลวง เด็กน้อยสามคนวิ่งมายืนดูและยิ้มให้ตรงทางเข้าหมู่บ้าน พอเดินไปถึงโรงเรียนก็พบเด็กๆมากมายมานั่งรอที่หน้าโรงเรียน เด็กๆบอกว่ามารอรับครูอาสา โอโห้ รู้สึกว่าทุกคนให้ความสำคัญกับพวกเราจัง

“กิจกรรมวันเด็ก วันแห่งการให้” วันนี้ได้เห็นความมุ่งมั่น ความสามัคคี ของเด็กๆ ของครูอาสา และชาวบ้านที่มาร่วมกิจกรรม
ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ ที่มองกี่ครั้งก็สดใส จริงใจ และแสนบริสุทธิ์ มีบางครั้งที่การแข่งขันทำให้เกิดการบาดเจ็บ แต่เด็กน้อยในชุด Spiderman ก็เข้มแข็ง เก่งมากนะ เจ้ามนุษย์แมงมุมตัวน้อยกรกช

ในเมื่อกิจกรรมเป็นการแข่งขันระหว่างสีก็ต้องมีของรางวัลสำหรับผู้ชนะ ความประทับใจเกิดขึ้นอีกแล้ว เด็กๆมุ่งมั่น จริงจังในแต่ละกิจกรรมที่จัดให้ แต่เมื่อได้ของรางวัลมาก็ไม่ลืมที่จะแบ่งสิ่งที่ตัวเองได้รับให้เพื่อนๆ ไม่เห็นว่าเด็กที่นี่จะหวงของเลย ทุกครั้ง ทุกคนก็จะแบ่งให้เพื่อนได้ หยิบของตัวเองไว้หนึ่งแล้วส่งต่อให้เพื่อนคนอื่น

วันนี้ไม่เพียงแต่เด็กๆสนุก แต่ครูอาสาแต่ละคนก็สนุก เหมือนเป็นวันเด็กของตัวเองอีกครั้ง เรียกได้ว่าหลายคนขอย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง จนลืมว่าเรากำลังเล่นกันกลางแดด เล่นเอาตัวดำกันเป็นแถว

“วันไปน้ำตก” ระยะทางขึ้นลง ขึ้นลง เขาไม่รู้กี่ลูก ทุกคนมีสัมภาระส่วนตัวที่ต้องแบกกันไป เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งมาแล้วดึงขวดน้ำไปจากกระเป๋าพร้อมบอกว่า”ครูขาเดี๋ยวหนู ถือให้ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ หนูถือให้” ขอบใจหนูมากนะเกตุแก้ว
เส้นทางก็มีบางช่วงที่แสนจะชันแต่ก็ได้เด็กๆที่คอยจับ คอยจูง บางทีก็ลาก และคอยแกล้งไปตลอดทาง ขอบใจมากนะทุกๆคน
อาหารกลางวันวันนั้นอร่อยที่สุดค่ะขอบคุณคณะผู้ประกอบอาหารทุกท่าน ตะเกียบที่ทำให้ใช้มันสวยมากค่ะ ทุกอย่างอยู่ในความจดจำทั้งหมด

“คืนวันปล่อยโคม” แว๊บแรกที่เห็นว่ามีการเตรียมให้ปล่อยโคม คำพูดคำนึงผุดขึ้นมาในหัว “มาอย่างผู้ให้ กลับไปอย่างผู้รับ” รู้สึกดีจริงๆค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ขอบคุณผู้ใหญ่ของหมู่บ้านที่มาผูกข้อมือให้พร หนูฟังไม่รู้ว่าท่านพูดว่าอย่างไร แต่หนูรับรู้ได้ด้วยการกระทำ ขอบคุณมากๆค่ะ ที่สำคัญ แม่เจ้าบ้านที่พวกเราไปพักด้วยก็ดูแลพวกเราดีมาก แม่อุตส่าห์ต้มน้ำไว้ให้พวกเรา เพราะเกรงว่าพวกเราจะหนาวกัน หาผ้าห่มมาให้ เตรียมชุดประจำเผ่า และแต่งตัวให้ หนูขอบคุณมากนะคะ

“วันแห่งการร่ำลา” วันนี้เต็มจริงๆ เต็มไปด้วยความรู้สึกตื้นตันกับสิ่งที่ได้รับจากทุกๆคน การเดินทางมาคนเดียวในครั้งนี้ไม่เหมือนมาคนเดียวเลย ทุกวันก็คิดถึงเด็กๆที่บ้านแม่ฝาง คิดถึงบรรยากาศที่บ้านแม่ฝาง คิดถึงทะเลดาวที่บ้านแม่ฝาง และอยากกลับไปอีกหลายๆครั้ง

บางทีเวลาก็ไม่ใช่ตัวแปรในการที่เราจะผูกพันกับใคร

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.