กระดูกไก่ที่กินเนื้อหมดแล้ว ยังมีประโยชน์

เช้าวันหนึ่ง ได้รับอาหารเช้าเป็นต้มไก่ แบบบนดอยแน่นอนในนั้นจะต้องมี ๓ สิ่งที่เป็นของสำคัญ ที่แม้แต่คนในบ้านก็ไม่ได้กิน ๑. หัวไก่ติดคอไก่มาด้วย ๒. ขาไก่ทั้งสองข้าง และ ๓ ปีกไก่ทั้งสองข้าง มองอย่างคนเมือง คนภายนอก แน่นอนเราต้องชอบกินเนื้อไก่ มากกว่าส่วนอื่น เป็นอย่างแท้แน่นอน วันนี้เป็นวันที่ผมสามารถเลือกได้ว่าจะกินหรือไม่กิน เพราะเขาเอามาส่งให้ถึงโรงเรียน ไม่ได้รับเชิญไปกินที่บ้าน ที่จะต้องกินทุกอย่างที่พ่อบ้านนำมาให้ เพื่อเป็นการให้เกียรติเจ้าของบ้าน วันนี้ผมก็เลยไม่กินไก่ทั้งสามส่วนที่ได้รับมา คือ หัว ขา และปีก ตั้งใจจะเก็บไว้ให้เด็ก ๆ ที่มาช่วยงานที่โรงเรียนได้กินบ้าง เพราะรู้ว่าเด็ก ๆ ไม่ค่อยได้กินอาหารดี ๆ แน่ ๆ ถ้าเป็นกับข้าวที่บ้าน แต่ผิดคาดครับ เด็ก ๆ ที่ผมให้กินไม่มีใครกล้ากินสักคน โดยคำตอบที่ได้คือ “เด็กกินไม่ได้” ผมเข้าใจว่าคงโดนปลูกฝังสั่งสอนมา คงจะเป็นเหมือนผมที่สมัยเด็ก ๆ จะโดนปลูกฝังว่าเด็ก ๆ กินตับและใตไก่ไม่ดี หารู้ไม่ตับและไต อร่อยเป็นที่สุดเมื่อได้กินตอนเด็ก ความปรารถนาดีของต้องผมหมดหวัง เพราะไม่มีเด็กคนไหนกล้ากิน อาหารชั้นดีที่ผมหยิบยื่นให้

ความเสมอภาคและยุติธรรมไม่มี มีแต่ความพึงพอใจในโชคชะตาของคนในที่ห่างไกล

ได้รับภารกิจให้ไปจัดสานเสวนา ๓ ทศวรรษ กพด. โดยให้จัดเสวนาชุมชน๓ ด้าน คือความเสมอภาคทางการศึกษา คุณภาพชีวิต และการบริหารจัดการ ศศช. ประเด็นของความเสมอภาคเป็นประเด็นหลักใน ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดในหมู่ครู กศน. ปัญหาคือ เราให้สิทธิกับทุกคนในชุมชน ให้ได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม แล้วอะไรคือความไม่เสมอภาคทางการศึกษา ในมุมมองของชุมชน อะไรคือปัญหาของความไม่เสมอภาคทางการศึกษา เพราะในเมื่อทุกคนในชุมชนได้รับโอกาสทั้งนั้น เด็กตั้งแต่ ๓-๑๕ ปี จะบรรจุรายชื่อเพื่อรับงบสนับสนุนอาหารกลางวัน จากรัฐ คนไหนไม่มาเรียน ก็แน่นอนไม่ได้รับสิทธิ์นั้น ขนาดบางคนไม่มีชื่อ ยังมารับอาหารตั้งแต่ ๒ ขวบกว่า ๆ ในฐานะที่เป็นครู ก็ต้องจัดสรรอาหารให้ไปตามส่วนของเด็ก คงไม่มีครูคนไหนใจดำขนาดเห็นเด็กตัวเล็ก ๆ มารับอาหารแล้วไม่ให้อาหารเด็ก เพียงเพราะว่าไม่มีชื่อในบัญชีรายชื่อ แม้แต่ผู้ใหญ่เราก็ให้สิทธิเรียนกันทุกคน หากแต่ผู้ใหญ่เหล่านั้นจะมีข้ออ้างที่ไม่มาเรียนเนื่องจากต้องทำมาหากิน หรืออาจจะอายเด็ก ๆ ที่ต้องมาเขียนหนังสือเหมือนเด็ก ๆ การเรียนจึงประยุกต์ไปตามสภาพของชุมชน เช่นเรียนที่บ้าน ฝีกเขียนที่บ้าน เรียนโดยการสนทนาแสดงความคิดเห็น ตั้งประเด็นให้คิดและแสดงความคิดเห็น ความไม่เสมอภาคในมุมมองของผม คือความไม่เสมอภาคของของงบประมาณที่ลงให้แต่ละพื้นที่มากกว่า ๓ จังหวัดภาคใต้ทุ่มงบประมาณลงไปสร้างความเจริญให้เท่าไหร่ ๆ ได้ข่าวว่าหลายพันล้านบาท

มือจับชอล์กล้าระโหยอ่อน ใจที่ซ่อนความช้ำด้อยศักดิ์ศรี

มือจับชอล์กล้าระโหยอ่อน ใจที่ซ่อนความช้ำด้อยศักดิ์ศรี หน้าที่เมื่อยด้วยฝืนยิ้มดูยินดี ปากพาทีพร่ำอบรมบ่มวิชา หลายวันนี้รู้สึกหงุดหงิดจิต เฝ้าครุ่นคิดอำลาการศึกษา เปลี่ยนอาชีพเปลี่ยนรายได้เปลี่ยนชีวา ฝันไปว่าชีวิตใหม่คงงดงาม ฝันมีบ้านหลังใหญ่รถเก๋งโก้ พร้อมพกโทรมือถือคนเกรงขาม เครดิตการ์ดมีไว้รูดได้ทุกยาม สนองกามเกียรติกินศิวิไลซ์ สะดุ้งตื่นจากภวังค์ด้วยเสียงศิษย์ ปิดความคิดด้วยแววตาที่ซื่อใส มือที่ไหว้หัวที่น้อมพร้อมดวงใจ ฉุดครูไว้ให้เป็นครูอยู่จนตาย ประพันธ์โดยครูรวี จากนิทานครู ของวีระ  ทองทาบวงศ์

อภัยให้ครูด้วย หากปลาที่เด็ก ๆ เลี้ยงไว้จะไปมีชีวิตใหม่

ก่อนลงดอย ๑ คืน ฝนตกตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของคืนวันที่ ๒๒ มิถุนายน ทำให้คืนนี้ที่ศูนย์การเรียนค่อนข้างจะเงียบเหงาเร็วกว่าปกติ ซึ่งปกติ จะมีเด็ก ๆ มีอยู่มาคุย เพื่อรอเวลาไปดูทีวี บรรยากาศดีเหลือเกิน เมื่อเสียงเม็ดฝนตกกระทบหลังคาสังกะสีศูนย์การเรียน ผมเอา Notebook ที่ติดขึ้นไปบนดอย ตัดสินใจนำ “ชีวิตร่ำไห้ ที่ไม่มีใครได้ยิน” มาเปิดให้เด็กที่อยู่เป็นเพื่อน ๓ คน ได้แก่ อาทิตย์ บือพะ และยงยุทธ ได้ดูในคืนนั้น วีดีทัศน์ชุดนั้น ลุงยุทธ นักพัฒนาสังคม ผู้ที่พยายามชักชวนผมให้เว้นการบริโภคเนื้อสัตว์ ได้มอบให้ไว้นานแล้ว เพิ่งจะได้มีโอกาสดูจนจบเรื่อง ก็วันนี้เอง “ตนเป็นที่รักแห่งตน เรารักตัวเองฉันใด สัตว์อื่นก็รักตัวเองฉันนั้น” เป็นคำบรรยายแรก ในวีดีทัศน์ชุดนั้น พร้อมกับภาพของสัตว์ต่าง ๆ ที่ถูกฆ่าเพื่อมาเป็นอาหารมนุษย์ ในฉากถัดมา วีดีทัศน์ชุดนั้นใช้ มีภาพค่อนข้างที่จะโหดร้ายสะเทือนใจ เช่นภาพปลาโดนสับหัวเป็น ๆ  ภาพกบถูกลอกหนังแล้วยังดิ้นรนต่อ ภาพปาดคอเปิดเพื่อเอาเลือด แล้วยังดิ้นไปอีกสักพักกว่าจะตาย “พวกเรายังไม่อยากตาย พวกเราไม่ใช่อาหารของท่าน ใครคงหลอกท่านไว้แน่เลย ว่าพวกเราเป็นอาหารของท่าน”

เห็ดเผาะ ของดีที่ไร้ค่า ลุ่มน้ำแม่ฮอง

ตลอดการเดินทางจากอำเภอฮอดเข้า ไปอำเภออมก๋อย จะเห็นข้างถนนหลวงจะมีเพิงเล็ก ๆ ตั้งขายของป่าเรียงรายอยู่ เกือบตลอดเส้นทาง เจ้าเห็ดก้อนกลม ๆ ที่เกิดในดิน หากินได้เฉพาะทางภาคเหนือและอีสานเท่านั้น และก็มีขายกันเฉพาะช่วงต้นฤดู ฝน ช่วงเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคมเท่านั้น เห็ดที่ว่านี้มี ชื่อว่า “เห็ดเผาะ” หรือเห็ดเหียงหรือเห็ดหนัง บางคนก็เรียกว่า เห็ดดอกดิน แต่ชื่อที่เรียกกันติดปากมาที่สุดคือ “เห็ดถอบ” เป็นหนึ่งในของป่าที่สร้างรายได้ ให้กับชาวบ้านริมถนนเหล่า นั้นคือเห็ดเผาะ ภาษาถิ่นทางเหนือเรียกเห็ดถอป และของป่าอื่น ๆ ตามฤดูกาล ภาคอิสานเรียกเห็ดเผาะ สีขาวขุ่นน่ากินยังกับลูกชิ้น เกิดในท้องนาดินปนทราย เห็ดถอบของทางเหนือ จะเกิดบริเวณที่ไฟไหม้ป่า เท่านั้น ลูกดำ ๆ ล้างเท่าไหร่ก็ไม่ขาว ที่อำเภอไชยปราการ ขายกันลิตรละ ๑๐๐-๑๒๐ บาท ในต้นฤดูกาล ที่อำเภอฮอดและอมก๋อย ริมทางหลวงก็ขายกันได้ลิตรละ ๘๐-๑๒๐ ตามความต้องการของตลาด แต่อนิจจา ที่บ้านแม่ฮองกลาง ตำบลนาเกียน อำเภออมก๋อยและหมู่บ้านใกล้เคียงชาวบ้านไม่สามารถเอาออกมาขายได้ เพราะไม่รู้ราคาตลาด และการเดินทางลำบาก เด็ก ๆ เอามาฝากให้ครูประมาณ

บังเอิญ ที่ได้อ่าน “ดูรู้ ๑ พรรษา”

บังเอิญที่ เป็นหนังสือ ที่พระศุภกิจบันทึกเมื่อจำพรรษา อยู่ ยุวพุทธิกสมาคมศูนย์สอง บัญเอิญที่ พระท่านมีพระอาจาย์ ที่เคยรับนิมนต์ ไปทำบุญ ที่ทำงานเก่าผม บัญเอิญที่ ช่วงนั้นผม อยากเข้าไปร่วมกิจกรรมทำบุญแต่ไม่ได้ไป คงบุญไม่มีที่จะได้กราบพระดี ๆ บังเอิญที่ การพาน้องไปทะเลครั้งที่ ๒ นี้ผมระบุลงไปที่ ยุวพุทธกสมาคมฯ ประทุมธานี ไม่ทราบว่าเป็น ศูนย์สอง บังเอิญที่ ความตั้งใจของครูก้อย ผู้ประสานงานได้ประสานไว้ที่ ศูนย์หนึ่งบางแค ทำให้ไม่ได้ไป ศูนย์สอง บังเอิญที่ เหตุการณ์ต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนั้นเกิดมาเมื่อปี ๒๕๔๙ มันเฉียดไปเฉียดมากับชีวิตผมตลอดเวลา บัญเอิญที่ หนังสือเล่มนั้นเล่าว่า เรื่องบัญเอิญไม่มี มันมีเหตุ มันมีที่มาที่ไปทุกอย่าง จึงได้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น ไม่บัญเอิญที่ผมตั้งใจจะเอาไว้ บนดอย แล้วเกิดอยากเอาหยิบติดมือลงด อยมาด้วย มาคิดได้อีกครั้งควรจะแบ่งคนอื่น ได้อ่านบ้าง จึงเอาไปบริจาคให้ห้องสมุดประชาชนอำเภออมก๋อย ไม่บังเอิญที่จะขอขอบคุณคุณสว่าง จิตร์ น้ำทิพย์ อีกครั้งที่ส่งหนังสือดี ๆ

พอสว. แพทย์อาสา ที่ต้องการของอมก๋อย

หลังจากขึ้นดอยไปวันที่ ๗ เพราะทราบเมื่อเดือนก่อนจากคณะแพทย์สถานีอนามัยนาเกียนว่าจะมีคณะแพทย์ พอสว.เดินเท้า เข้ามาทำการรักษาให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล วันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๕๓ คณะแพทย์คณะที่ ๓ จากทั้งหมด ๔ คณะที่ทำการเดินเท้าในครั้งนี้ก็ได้เดินทางมาถึงหมู่บ้านแม่ฮองกลาง ท่ามกลางความหวังของประชาชน และตัวผมเองที่อยากให้เด็กหายป่วย เด็กบางคนเป็นแผลแล้วหายยาก บางคนเป็นหูน้ำหนวก บางคนเป็นหวัดเรื้อรังบางคนเป็นฝี ทรมานน่าดู ได้ร่วมงานโดยอาศัยจากประสบการณ์ที่เคยทำงานโรงพยาบาลมาก่อน มาทำหน้าที่ชั่งน้ำหนักและเรียกชื่อก่อนส่งตัวให้พยาบาลซักถามอาการ แล้วส่งต่อให้กับคณะแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยรักษาคณะแพทย์อาสาในครั้งนี้ ทำให้ผมได้เห็นความทุ่มเท และจริงใจ ที่คณะแพทย์ ได้มอบให้กับชุมชนห่างไกล ขอย้อนระลึกถึงคุณขององค์สมเด็จย่า ที่ได้ก่อกำเนิดแพทย์อาสาขึ้น และขอขอบคุณที่มีแพทย์ผู้เสียสละเวลาอันมีค่าของท่าน เข้าร่วมเดินเท้าทำการรักษาในครั้งนี้ ตลอดเส้นทางคณะที่ ๓ ต้องเดินเท้าเป็นเวลา ๔ คืน ๕ วัน และทำการรักษาชาวบ้านประมาณ ๘ หมู่บ้านเป็นการเสียสละทั้งแรงกาย แรงใจ เวลาอันมีค่าได้มาทำการตรวจรักษาพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลอย่างอมก๋อยพร้อม กับได้มอบยาบางส่วนไว้ให้กับ ศูนย์การเรียน เพื่อแจกจ่ายในยามจำเป็นต่อไป

ไม้สั้นไม้ยาว และหมูไล่คน

หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้าวันหนึ่ง เพราะมีเสียงเด็ก ๆ มาเรียกที่หน้าศูนย์การเรียนผมมาเปิดประตูอาคารเรียน แล้วตั้งใจจะหันหน้าไปสูดอากาศที่สดชื่น ทางทิศตะวันออก พลันสายตาก็เหลือบไปเห็น นักเรียนคนหนึ่งชื่อกฤษณะชัย อายุสักประมาณ ๑๑ ปี วิ่งลงไปตามถนนพร้อมกับมีหมูตัวใหญ่วิ่งไล่ตามไปติด ๆ เด็กคนนั้นก็วิ่งหายเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหมู ผมตกใจนิด ๆ ไม่เคยเห็นหมูไล่กัดคนมาก่อนในชีวิต แต่ก็แปลกใจ มีนักเรียนอีกคนอายุ ๑๕ ปี ชื่อเปาแซยืนอยู่ทางที่น้องกฤษณะชัยวิ่งลงไป แต่ทำไมเขาไม่ได้ช่วยเหลือกัน ทำไมแล้งน้ำใจเหลือเกิน พักใหญ่เห็นน้องกฤษณะชัย เดินขึ้นมาจากป่า ผมก็โล่งอีกไปที แต่ตัวแค่นี้จะกล้าฆ่าหมูเลยเหรอจึงเรียกมาสอบถาม  ได้ความว่า ลงไปถ่ายอุจจาระ เนื่องจากที่บ้านไม่มีห้องน้ำ แต่เห็นหมูวิ่งไล่ไปอ่ะ ก็ไม่มีอะไรมาก  หมูไปกำจัดสิ่งปฏิกูลให้นั้นเองแต่ผมสุดจะงง หมูมันรู้ได้ไงว่าคนไหนจะเข้าป่าไป ให้อาหารหมู จึงแนะนำน้องกฤษณะชัยไปว่า วันหลังให้เตรียมไม้ไป ๒ อัน อันหนึ่งเป็นไม้ยาว เอาไว้ไล่หมู อีกไม้สั้นนั้นก็พิจารณาเอาเองว่าจะเอาไปทำอะไร หลังจากเสร็จภารกิจ ถ้าไม่มีไม้ยาว ๆ ครูมีที่โรงเรียน ให้ยืม ส่วนไม้สั้นนั้นหาเอาตามป่าได้มีเยอะแยะ

หัวไก่ ตีนไก่ ตูดไก่ และน้ำพริกคางคก

ถ้าไม่สุภาพก็ขออภัยครับ แต่ใช่ครับ ที่บอกมา คือของกินสำคัญของกะเหรี่ยงอมก๋อย และโดยเฉพาะ หัวไก่ ตีนไก่ ตูดไก่จะให้กินเฉพาะแขกสำคัญเท่านั้น คนในบ้านและเด็ก ๆ ไม่มีวันได้กินหรอก ของอร่อยแบบนี้ และผมก็กลายเป็นแขกสำคัญของบ้านนั้นซะด้วยในเหตุการณ์ที่ลืม ไม่ลงนี้ วันนั้นบ้านของน้องสรชาติ ทำพิธีผูกข้อมือให้น้องสาวสองคน สงสัยว่าเพิ่งจะหายป่วยจึงมีการฆ่าไก่ เพื่อทำพิธีผูกข้อมือและทำบุญ ตามที่ได้สอบถามมา ผมเป็นแขกที่ได้รับเชิญไปร่วมกินข้าวที่บ้าน และจะให้ความสำคัญกับแขกมากในการกินข้าวโดยพ่อบ้านจะนำขาไก่ ที่แยกไว้ต่างหากนั้น มาให้แขกกิน จากตามมาด้วยหัวไก่ และตูดไก่ไก่ธรรมดา รสชาติที่เคยกินมันก็คงกินได้ แต่ไก่ดอย มันไม่มีเนื้อหนังอะไรเลยมีแต่เอ็นเหนียว ๆ ติดกระดูก หัวไก่ก็ต้มแบบไม่ใส่เกลือ ไม่ใส่ข่า หรือตะไคร้เลย ทำให้มีความรู้สึกว่าได้กินไก่สด ๆ มาถึงอันสุดท้าย ตูดไก่ครับ บอกได้ว่ามันมีความรู้สึกเหมือน ยังมีเพลี้ยไก่ติดอยู่ในใส้ไก่อยู่เลยรู้สึกว่าอยากจะคาย แต่คายไม่ได้ เพราะมันเป็นของดีที่เขาเลือกให้เราที่เป็นแขกสำคัญเท่านั้นได้กิน ผมเคยอ่านในหนังสือแล้วว่าจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ไม่คิดว่าจะเจอแบบไม่ได้ตั้งตัว ตั้งใจแบบนี้การได้รับเชิญในครั้งนี้เป็น ครั้งแรกที่ได้สัมผัสในเรื่องราวที่เคยอ่านหนังสือมา และก็ได้รับความประทับใจกลับมาชนิด ไม่มีวันลืมอีกเลยถามว่าอร่อยไหม ผมว่าอาหารนี้คงอร่อยที่สุด ในวิถีชีวิตบนดอยที่ลำบากยากแค้นขนาดนั้น เพราะนาน ๆ ถึงจะมีการฆ่าไก่กินสักครั้ง บางทีทั้งเดือน ครอบครัวของเด็ก ๆ

คนไทย น้ำใจไม่เคยแห้ง ภาค ๒

หลังจากเหตุการณ์ครั้งที่ ๑ ห่างกันประมาณ ๒ สัปดาห์ ก็มีเหตุการณ์เกิดกับผมในลักษณะคล้าย ๆ กัน คือเหมือนจะได้รับการปฏิเสธในตอนแรก แต่ก็ได้รับการตอบรับในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่ ๒ เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ผมกลับจากอบรมครูในโครงการ กพด. ของสำนักงาน กศน.ภาคเหนือ ที่จังหวัดลำปางได้โดยสารรถยนส่วนตัวของครูอาสาด้วยกัน กลับมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ประมาณ ๑๔. ๔๐ แน่นอนผมไม่ทันรถเมล์ที่จะวิ่งเข้าอำเภออมก๋อย ที่ออกไปแล้วเมื่อเวลา ๑๔.๐๐ น. เนื่องจากรถเมล์เข้าอมก๋อยจากเชียงใหม่มีวันละ ๒ คันคือ ๐๘.๐๐ กับ ๑๔.๐๐) แต่ผมคาดว่ารถคันที่ผมขึ้นนั้นจะมาทัน หรือเกือบทันรถเมล์โดยสารคันที่วิ่งเข้าอำเภออมก๋อยที่กะไว้ประมาณว่าที่ อำเภอฮอด เพราะปกติรถจะออกจากอำเภอฮอดเพื่อเข้าอมก๋อยในเวลา ๑๖.๑๕ ผมมาถึงอำเภอฮอดเวลา ๑๖.๒๕ ช้าไป ๑๐ นาที ผมพลาดรถเมล์อีกแล้ว ผมพยายามสอบถามจุดที่เดินผ่าน เพื่อจะหามอเตอร์ไซด์รับจ้างให้ไปส่ง โดยขับไล่ให้ทันรถเมล์ที่เพิ่งออกไปเมื่อ ๑๐ นาที่ที่แล้ว แต่น่าเสียดายฮอดเป็นอำเภอกันดาร ไม่มีมอไซด์รับจ้างมาเข้าวินรอผู้โดยสาร ผมจึงไปปรึกษาร้านค้าที่อยู่ใกล้กับจุดที่รถเมล์จากอำเภอฮอดไปอมก๋อยและยืน รอเพื่อตัดสินใจ๕

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.