เมื่อถึงวันลาจาก แต่ไม่ได้จากลา (หน้าที่เปลี่ยนไป ความตั้งใจเหมือนเดิม)

บางครั้งความตั้งใจที่จะทำงานในแต่ละที่แต่ละอย่าง มันก็มีเหตุให้ต้องเปลี่ยนแปลง เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิตการทำงาน และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ได้ตั้งใจ เมื่อ ผอ.กศน.อำเภออมก๋อยคนใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่งได้ ๓ เดือน สำหรับผมอาจจะหมายถึงผู้บังคับบัญชาเก่า หรืออาจจะเรียกว่าเจ้านายเก่า ที่เห็นมองศักยภาพความสามารถที่จะดึงมาเป็นทีมงาน   ก่อนหน้า นั้น ก็ได้แจ้งท่านผอ.ไปแล้วว่าชอบทำงานบนดอยมากกว่า แต่สุดท้ายก็ได้รับการพิจารณาให้ปรับเปลี่ยนหน้าที่ใหม่ ผมจึงถูกเรียกตัว จากครูผู้สอนบนดอย ให้มารับหน้าที่ใหม่เป็นครูนิเทศก์ ของกลุ่มโดยดูแลกลุ่มบ้านแม่ฮอง ซึ่งปรับกลุ่มใหม่ประกอบไปด้วย ศศช. บ้านห้วยหวาย บ้านแม่ฮองใต้ บ้านแม่ฮองกลาง บ้านแม่เกิบ บ้านกองดา และบ้านห้วยบง   ตั้งแต่วันแรกที่ขึ้นดอยในเดือนกันยายน ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายที่จะเป็นครูผู้สอน ศศช.บ้านแม่ฮองกลาง ตลอดเวลาก็ได้แจ้งให้เด็ก ๆ ได้เข้าใจในหน้าที่ใหม่ที่ครูจะไปทำ ก็ได้บอกกับเด็ก ๆ ตลอดว่าครูจะขึ้นมาบ่อย ๆ เท่าที่จะทำได้ ดูเหมือนว่าเด็กก็คือเด็ก คือฟังไปแต่ยังไม่คิดอะไรมากมาย จนเมื่อมาถึงวันสุดท้ายที่จะต้องลงดอยจากบ้านแม่ฮองกลางมา ก็เกิดปรากฎการณ์ที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน “เด็ก ๆ พากันไปร้องไห้ เสียใจที่ครูจากไป” ทั้งตัวเล็ก ตัวโต ไปร้องไห้หน้าห้องน้ำหลังอาคารเรียน   เด็ก ผู้ชายดูจะเก็บความรู้สึกไว้ได้

ครบรอบ ๑ ปี ขึ้นดอยที่อมก๋อย

ถ้าเดือนมกราคม คือเดือนที่ครบรอบก่อตั้งเว็บไซต์ เดือนมีนาคม ก็ถือเป็นเดือนที่ครบรอบของการขึ้นไปอยู่เป็นครูดอยบ้านแม่ฮองกลาง ที่อมก๋อย ครบรอบ ๑ ปี ที่ผ่านมา เกิดสิ่งต่าง ๆ มากมาย บางเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องเก็บประสบการ บางเรื่องเป็นแค่เหตการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แต่ไม่เคยคิดท้อ ถึงแม้จะเจ็บตัวตอนรถล้มถนนลื่น หรือมีแผลเป็นติดตัว  เหนื่อยบ้าง ๑ ปีผ่านไป ขอบคุณทุกคำแนะนำและกำลังใจ ที่ทำให้มาถึงวันนี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุน ที่ทำให้เด็ก ๆ ได้มีเสียงหัวเราะ ผู้ใหญ่ในชุมชนได้มีรอยยิ้ม ขอบคุณทุกคำเตือน ที่ทำให้ไม่ลืมเป้าหมาย ในการทำงาน ขอบคุณทุกคำพูด ที่ทำให้คิด ถึงแม้จะสะกิดใจบ้าง แต่นั้นถือเป็นคำแนะนำ ขอบคุณ Facebook ที่ทำให้ผู้ใหญ่ใจดีต่างทราบถึงกิจกรรม และระดมความช่วยเหลือเข้ามา ขอบคุณครูฉิง admin ใจดีที่นอกจากช่วยเริ่มสร้าง page แล้วยังคอยเป็นผู้ดูแล และให้คำปรึกษาแนะนำต่าง ๆ ตลอดมา ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ใจดีพร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือ ไปยังเด็กดอยด้อยโอกาสที่อมก๋อย ความดีใด ๆ ที่เกิดขึ้นขอยกให้เป็นความดีของผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวดี

วันเด็ก เรื่องเล็ก แต่ยิ่งใหญ่

การพาลูกหลานไปร่วมงานวันเด็ก มีการแสดงของเด็ก ๆ มีการแจกของขวัญ พาลูกจูงหลานไปดูสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทางทหารจัดแสดง หรือการพาลูกหลานไปเที่ยวตามสวนสัตว์ หรืออำเภอ เทศบาลต่าง ๆ จัดขึ้น ปีต่อไปก็พาเด็ก ๆ ลูกหลานไปเที่ยวอีก นั่นเป็นดูจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับวิถีชีวิตคนในเมือง จากคำบอกเล่าของอดีตผู้ใหญ่บ้าน วันเด็กปี ๒๕๕๔ ที่บ้านแม่ฮองกลางปีนี้ กลับดูยิ่งใหญ่ เทียบเคียงได้กับเมื่อหลายปีก่อน ที่เคยมีเฮลิคอปเตอร์มาลงเพื่อแจกของให้กับชาวบ้าน วัน เด็กปีนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็ก ๆ และชุมชนได้ไม่น้อย ก็นอกจากมีของรางวัลมาแจกให้เด็ก ๆ อย่างทุกคนจาก ๓ ศูนย์การเรียนแล้ว ผู้ใหญ่ที่มาให้กำลังใจบุตรหลาน ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วยเพราะได้รับแจกข้าวของ พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวันเหมือนเด็ก ๆ วันเด็กปีนี้ จึงมีความสุขกันถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่นำสิ่งของมามอบให้ เด็กร่วมกิจกรรม และผู้คนในชุมชน ที่บอกยิ่งใหญ่ คือนอกจากของแจกของรางวัลแล้ว ยังมีวงดนตรีมาขับกล่อมตลอดงาน ทำเอาเด็ก ๆ บางส่วนจำเพลงที่วงดนตรีร้องให้ฟัง มาขับร้องหลังจากคณะได้เดินทางกลับไปแล้ว ด้าน การเดินทางเข้าพื้นที่ในวันที่ ๑๔ ม.ค.

4DekDoi ครบรอบ 1 ปี

httpv://www.youtube.com/watch?v=4S3DhsWN2Ew As we approach the one year anniversary of 4DekDoi, we would like to take a moment to thank you for all of your supports 🙂 4DekDoi ครบรอบ 1 ปีแล้วค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ 4DekDoi มาโดยตลอดนะคะ

เตาแกส เตาไฟ เตาอะไรทำไมร้อน

ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ คณะของพี่สุรัตน์จากจังหวัดระยอง ผู้ใหญ่ใจดีที่เคยสนับสนุนและเกื้อกูลตลอดมา ก็ได้มาเยี่ยมที่บ้านแม่ฮองกลาง การมาในครั้งนี้ของคณะพี่สุรัตน์ ได้นำมาซึ่งความอบอุ่นมามอบให้กับชุมชน นั้นคือการมอบผ้าห่มให้กับชาวบ้านแม่ฮองกลาง ๔๕ หลังคาเรือน โดยได้รับกันอย่างทั่วหน้าทุกหลังคาเรือน สำหรับเด็ก ๆ เองก็ได้รับรอยยิ้ม เหมือนเคยเพราะได้รับรองเท้าแตะคนละคู่ เป็นของฝากจากผู้ใหญ่ใจดี คณะคุณสุรัตน์ยังได้ฝากขนม และของฝากจากระยองไว้ ทำให้เด็ก ๆ บ้านแม่ฮองกลางสดชื่นตั้งใจเรียนและขยันขันแข็งในการทำงานตลอดเดือนธันวาคม แต่ที่สร้างความแปลกประหลาดและงุนงง ให้กับเด็ก ๆ และชุมชนอยู่ไม่น้อยคือเตาแกสที่คณะพี่สุรัตน์ได้ซื้อบริจาคไว้ให้ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ได้รับสนับสนุนในศูนย์การเรียน ที่ว่าสร้างความงุนงง คือเด็ก ๆ และชาวบ้านสงสัยว่ามันติดไฟได้อย่างไร ไฟที่ติดทำไมเป็นสีฟ้า ไฟสีฟ้าทำไมมีความร้อน ผมต้องใช้เวลาอยู่ประมาณ ๒ สัปดาห์ในการสอนเด็กใช้งาน แต่ไม่อยากให้ใช้งานบ่อย เนื่องจากจะทำให้เด็กหลงลืมรากเหง้า และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ให้ใช้เฉพาะเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น และเนื่องจากการขนส่งลำบาก กว่าจะเอาขึ้นมาได้ ๗๐ กว่ากิโล แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อเด็ก ๆ ใช้เตาแกสเป็น บอกให้ต้มน้ำเด็ก ๆ ก็จะใช้เตาแกสตลอด จนต้องออกกฎว่าห้ามใช้เตาแกส ถ้าจะใช้เตาแกสทำอะไรต้องแจ้งครูทุกครั้ง ซึ่งแน่นอน ผมไม่ค่อยอนุญาตให้เด็กใช้เตาแกส เพราะจะเกิดความเคยชิน

บุกเบิกอมก๋อย…เป็นครั้งแรก

นับตั้งแต่กิจกรรม “ครูอาสาลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย” เกิดขึ้น ครั้งนี้มีหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นที่นี่…เป็นครั้งแรก จัดกิจกรรมครูอาสา ที่อมก๋อย เป็นครั้งแรกครูอาสาหลาย ๆ ท่านมาอมก๋อย เป็นครั้งแรกครูอาสาบางท่าน มาภาคเหนือ เป็นครั้งแรกมีครูอาสา เป็นข้าราชการครู เข้าร่วมกิจกรรม เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ที่เป็น ผอ.โรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรม เป็นครั้งแรกมีครูอาสาหลาย ๆ ท่านเห็นความลำบากสุด ๆ ในชีวิต เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ที่เป็นนายจ้าง และลูกจ้าง มาร่วมกิจกรรมด้วยกัน เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ร่วมเป่าเทียนวันเกิด ในกิจกรรม และเป็นครั้งแรกที่ ครูศักดิ์ จาก ศศช. บ้านห้วยบง ที่ขับรถยนต์พาครูอาสาขึ้นไปบ้านแม่ฮองกลาง  😛 (ปกติไปถึงแค่น้ำห้วย) เมื่อเป็นครั้งแรก มันจึงเกิดความผิดพลาด เล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นรถเมล์จากเชียงใหม่ที่คาดว่าจะมาส่งครูอาสาในเวลาไม่เกิน ๑๒.๓๐ – ๑๒.๕๐ กว่าจะมาถึงอมก๋อย ก็ปาเข้าไป ๑๓.๑๕ ช้าไป ครึ่งชั่วโมงรถรับส่งครูอาสาที่เตรียมไว้

เจ็บมะละกอ….เสื้อมือยาว

เย็นวันหนึ่ง นักสู้ทั้งหลาย ต่างเตะต่อยกัน เหมือนหนังเรื่องนักสู้พันธุ์ข้าวเหนียว ผมได้นั่งอยู่หน้า ศศช.ตามประสาครูดอย ดูเด็ก ๆ เล่นกัน ปรากฎว่าเล่นกันไปเล่นกันมา เกิดพลาดขึ้นมามีคนหนึ่งเจ็บ จากการเล่นขึ้นมา ผมก็พรวดเข้าไปถามว่าเจ็บอะไรที่ไหนบ้าง หลาย ๆ คนที่เล่นก็ยังตัวเล็ก แต่ก็เล่นกันตามประสาเด็กถามใครต่อใครก็ไม่ได้คำตอบ แล้วน้องชิจัง ก็ให้คำตอบกับผมว่า “เจ็บมะละกอ” เด็กที่โตกว่าก็พากันหัวเราะ เนื่องจากเข้าใจภาษาไทยกว่า แล้วผมก็ยังงง ๆ อะไรคือเจ็บมะละกอ คำเฉลยที่ได้คือมีเด็กอีกคนเอามือจับที่เอว แล้วร้องเพลงแอปเปิ้ล มะละกอ กล้วย ส้ม เป็นเพลงที่สอนให้เด็ก ๆ เต้นบ่อย ๆ นั้นเอง ที่บอกว่าเจ็บมะละกอ ก็คือเจ็บเอวนั้นเองผมต้องคอยปลอบใจ ไม่ให้ชิจังอาย เพราะถูกล้อเลียนว่าเจ็บมะละกอ และบอกเด็ก ๆ ที่โตกว่าว่าชิจังเขายังเรียกคำว่า “เอว” ไม่ได้ อย่าเอาไปล้อเลียนเขา ตั้งแต่วันนั้นมาก็หวังว่าน้องชิจังจะรู้จักคำว่าเอว ๔ พฤศจิกายน ๕๓ ผมโทรขึ้นไปบนดอย เพื่อสอบถามว่าเด็ก ๆ ไปรดน้ำสวนผักให้หรือเปล่า ผู้ที่มารับคือน้องโซ่ถัง ได้รายงานให้ผมทราบว่า

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.