ถึงคราวคับขัน ก็ไม่ถึงกับสิ้นหนทาง สวรรค์ยังเมตตา

ขึ้นดอยโดยปกติผมจะไปถึงสามแยกผีปาน-บ้านนาเกียน ผมจะต้องไปสายผีปาน ไปที่บ้าน ใบหนา แยกผีปานเหนือ เข้าห้วยบง และมาแม่ฮอง

ครั้งไปเมื่อต้นเดือนกรกฎาคม คราวนี้เปลี่ยนเส้นทางไปเส้นทางที่ไม่เคยไปคือไปบ้าน นาเกียน ทีลอง ศาลาที แม่เกิบ และแม่ฮอง ตามคำชวนของเพื่อนครู และต้องไปดูเส้นทางว่าลำบากกว่าเส้นทางที่ผมใช้ประจำหรือไม่ ก็รู้สึกได้ว่า ถนนจะดีกว่าเส้นที่ผมใช้ประจำ

เมื่อไปถึงบ้านแม่เกิบ ทางชันเกือบขึ้นไม่ได้ ต้องเข็ญรถขึ้น พร้อมแบกกระเป๋ามีหนังสือ และวิตามีนซีไปฝากเด็ก ๆ และลำอ้อยไปปลูกบนดอย ผ่านทางขึ้นเนินบ้านแม่เกิบไปได้ด้วยความทุลักทุเล แต่ปรากฎว่ารถไปล้มเอาตอนจะขึ้น ศศช.บ้านแม่เกิบเพื่อจะเข้าไปแวะพักเหนื่อย

บาดแผลถลอกนิดเดียว ขนาดวงเหรียญ ๕ หรือเหรียญ ๑๐ ผมคิดว่าไม่เป็นไร สัก ๗-๑๐ วันก็น่าจะหายไปเอง ผมคิดผิดไปถนัด ๗ วันก็แล้ว ๑๐ วันก็แล้ว ซ้ำอาการหนักกว่าเก่า โดยมีเลือดไหลออกมาพร้อมกับหนอง เจ็บจนนอนไม่หลับ

ปกติเดือนก่อน ๆ ผมก็เตรียมยาแก้อักเสบขึ้นไป แต่ชาวบ้านไม่สบาย เลยให้ไปหมดเลย ๒ แผง เลยไม่มียาแก้อักเสบกิน ด้วยความที่ซื้อแพงเหลือเกิน อมก๋อยแผงละ ๕๐ บาท เวลาล่วงเลยไป ตอนจะขึ้นดอยก็เลยลืมซื้อขึ้นไปด้วย แผลนิดเดียว แต่ลามออกเรื่อย ๆ พออาการเริ่มหนัก เจ็บตลอด นอนไม่หลับ ไม่มีสมาธิและจิตใจที่จะเตรียมการสอน

ครั้งนี้ต้องขออนุญาตครูนิเทศก์กลุ่มแม่ฮอง เพื่อลงมาหายยาแก้อักเสบกิน พอถึงวันที่ ๑๕ ตัดสินใจลงดอยมา ระหว่างลงดอยมาฝนตกหนัก รถสตาร์ดไม่ติด ต้องจอดหลบฝนระหว่างบ้านอูตูม มาบ้านสงินเหนือ โดยยืนอยู่ใต้ร่วมไม้ คาดว่าฝนหยุดคงจะเดินทางต่อได้ ฝนตกเป็นชั่วโมงยังไม่มีทีท่า ว่าจะหยุดตก

ตลอดเวลาที่หลบรอฝนหยุด ก็มีรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่ต้องใช้เส้นทางนั้นผ่านไป-มา และมีรถกระบะของชาวบ้านผ่านมาบ้างครั้งคราว ฝนเริ่มตกปรอย ๆ ผมไปลองสตาร์ดรถดูก็ไม่ติด เลยจำใจรอต่อไป และแล้วฝนก็กระหน่ำมลงมาอีกหนักกว่าเดิม

ความโชคดีเกิดขึ้นเมื่อมีรถกระบะผ่านมา ๒ คัน คันแรกของกรมวิชาการเกษตร ผมยืนเฉย เพราะเหตุใดไม่ทราบ คันที่สอง ไม่ทราบสังกัดสีเขียวขี้ม้า ดูแล้วไม่ใช่รถชาวบ้านแน่นอน ผมตัดสินใจโบกรถ เพราะเหลือระยะทางเกือบ ๓๐ กิโลกว่าจะถึงตัวอำเภออมก๋อย และเป็นทางลงดอยตลอด ผมเริ่มหนาวจากฝนมาชั่วโมงกว่าแล้ว โชคดีตรงที่ คนนั่งคู่คนขับ ทราบต่อมาว่าท่านเป็นปลัดอยู่ที่ไหนสักที่ ไม่ได้ถามท่าน ทราบจากพ่อหลวงบ้านห้วยส้ม ที่อาศัยมาท้ายรถกระบะเล่าให้ฟังว่า ท่านมาประชุมที่ สำนักงาน อบต.นาเกียน ให้ผมติดรถมาด้วย

ผมเลยยกมอเตอร์ไซด์ขึ้นใส่ท้ายกระบะหลัง โดยมีพ่อหลวงบ้านห้วยส้มช่วยยก ไม่รู้เอาแรงมาจากไหน ผมยกรถกับพ่อหลวงสองคน สามารถเอารถมอเตอร์ไซด์หนักไม่น้อยกว่า ๘๐ กิโลขึ้นท้ายรถกระบะได้ทั้ง ๆ ที่ขาเจ็บเพราะแผลรถคว่ำ

การลงดอยครั้งนี้ ก็ถึงอมก๋อยโดยสวัสดิภาพ จากการช่วยเหลือของท่านปลัดที่ไม่ได้ถามชื่อ หลังบอกวัตถุประสงค์ของการเดินทาง และรถเสียทำให้เดินทางต่อไม่ได้แล้ว ก็ได้กล่าวขอบคุณท่าน  แล้วท่านก็ขึ้นรถออกไป มานึกเสียดายที่ไม่ได้ถามท่านว่าอยู่ที่ไหน ชื่อเสียงเรียงนามใด

มาถึงอมก๋อย หมดเงินซื้อยาไป ๒๐๐ กับ ยาแก้อักเสบ ๔ แผง แผงละ ๑๐ เม็ด ความมั่นใจกลับมาเพราะมียาแล้ว พักสัก ๒ วันคงกลับขึ้นดอยได้อีกตามปกติ

บ่ายวันที่ ๑๖ ได้รับการติดต่อจากคุณแอร์จากนิตยสาร Be Magazine เพื่อสอบถามกิจกรรม “ลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย” ครั้งต่อไปก็ทราบว่าคุณแอร์สนใจที่เข้ามาร่วมสังเกตุการณ์ เนื่องจากนิตยสาร Be Magazine ที่ทำอยู่เป็นนิตยสารเพื่อสังคม หากต้องการให้ช่วยประชาสัมพันธ์ก็ยินดี ต้องขอขอบคุณไว้นะโอกาสนี้ครับ

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.