พาน้องเด็กดอยเที่ยวทะเลครั้งที่ ๒ (๒๐-๒๕ เมษายน ๒๕๕๓)
ถ้านับจากเดือนที่จุดประกาย ตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ๒๕๕๒ ได้เริ่มเตรียมงานจริงจังก็หลังจากค่ายครูอาสารุ่น ๒ เรียบร้อยแล้ว ในการเตรียมงานครั้งนี้ ก็ได้รับความช่วยเหลือ คำแนะนำหลายอย่าง จากหลาย ๆ ที่หลายคณะ จากผู้ใหญ่ใจดี ที่ระยอง จากคณะครูอาสา ที่อยากให้น้อง ๆ ได้สัมผัสสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดเป็นโปรแกรมทัศนศึกษา “พาน้องเด็กดอยเที่ยวทะเล ครั้งที่ ๒”
หลังจากเตรียมแผนงานตลอดเดือนมีนาคม และต้นเดือนเมษายน ๒๕๕๓ ใกล้ถึงวันเดินทาง ช่วงสงกรานต์เลยขึ้นไปพักผ่อนสมอง สอนหนังสือเด็กอยู่บนดอยบ้านแม่ฮองกลาง
ก่อนวันเดินทางต้องกลับมาที่ไชยปราการ เพื่อรับเด็ก ๆ ชนเผ่ามูเซอ (ลาหู่) จากบ้านแม่ฝางหลวง อำเภอไชยปราการ ไปด้วยตัวเองเนื่องจากครูใหญ่ (ธนานัน) ติดภารกิจด่วน ลูกชายบวชภาคฤดูร้อน และจะลาสิขาบท (สึก) ในตอนสายของวันที่ ๒๐ ทำให้ไม่สะดวกพาน้อง ๆไปจากไชยปราการ
วันเดินทางหลังจากเบิกเงินค่ารถเรียบร้อยแล้ว ก็พาเด็ก ๆ ออกเดินทางโดยรถเมล์โดยสารจากไชยปราการ เข้าเมืองเชียงใหม่ เพื่อไปต่อรถทัวร์โดยสารที่ได้ติดต่อไว้ให้มารับหน้าโรงพยาบาลนครพิงค์ (ป่าแงะ) ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเดินทางต่อไปรับเด็ก ๆ ที่อำเภออมก๋อยพอขึ้นรถก็รู้ได้เลยว่าแอร์รถไม่เย็น ลุงคนขับ เลยพาไปเติมน้ำยาแอร์ ที่เอำเภอจอมทอง ก่อนเข้าไปรับน้อง ๆ ที่อมก๋อย
ออกเดินทางจากไชยปราการ ๑๐.๐๐ น. ถึง เชียงใหม่ ๑๓.๐๐ น. กว่าจะไปถึงอมก๋อย ก็เป็นเวลา ๑๗.๓๐ ของวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๕๓ เนื่องจากพารถไปอ้อมเพื่อกลับรถ รถหลังคาสูงมากไปเกี่ยวสายไฟชาวบ้านขาดไปอีก เสียเงินค่าซ่อมไป ๒๐๐ บาท กว่าจะได้ออกจากอมก๋อย เริ่มการเดินทางจริง ๆ ก็เป็นเวลาประมาณ ๑๘.๒๐ ช้ากว่ากำหนดเวลา แต่ก็ดีเหมือนกัน เดินทางกลางคืน แอร์เริ่มจะเย็น แต่….ออกไปได้สักพัก สายไฟไหม้เหม็นตลบไปทั่วต้องให้เด็ก ๆ ลงจากรถก่อน หลังจากออกจากอมก๋อยไปได้ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร
เช้าวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๓ จอดให้น้อง ๆ ล้างหน้าแปรงฟันเข้าห้องน้ำ ที่ปั้มน้ำมันประมาณจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา แล้วทำการจัดระบบกลุ่มให้กับน้อง ๆ จะได้รู้จักกันมากขึ้น ๐๗.๓๐ ไปรับข้าวกล่องมื้อแรก จากครูพี่เอก และครูพี่เล็ก ผู้ใหญ่ใจดีอีกคนที่สนันสนุนกิจกรรมให้น้อง ๆ ได้อิ่มท้องในมื้อแรก ข้าวกล่องใหญ่มาก เด็กดอยส่วนใหญ่กินไม่หมด ต้องเก็บไว้กินตอนหิวได้อีก ต้องขอขอบคุณร้านที่ทำและร่วมทำบุญกับครูพี่เอก ด้วยการลดราคาจาก กล่องละ ๔๐เป็นกล่องละ ๓๐ บาท แต่ปริมาณยังมากมายจนเด็กกินไม่หมด
เดินทางต่อไป อพวช. น้อง ก็ได้รับแจกของใช้ส่วนตัว จากครูก้อยและครูมาร์ค อาสารุ่น ๒ มีของมาฝากน้อง ๆ ให้ดีใจกัน จากนั้นก็ตั้งแถว เข้าไปเที่ยวชมหาความรู้ใน อพวช. รายละเอียดการเข้าชม มีในภาพกิจกรรม หลังจากนั้นก็ได้ออกเดินทาง ไปบ้านพักเด็กพิการตาบอดซ้ำซ้อน เนื่องจากมีผู้ใหญ่ใจดี ทำอาหาร ขนม และไอศครีม มารอแจกน้อง ๆ อยู่ที่นั้น ก่อนจะเดินทางไป ยุวพุทธิกสามาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ในตอนบ่าย ๔ โมงเย็น (๑๖.๐๐ น.)
ถึงยุวพุทธิกสมาคมฯ ก็ได้รับการต้อนรับอันอบอุ่น แสนประทับใจ กับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดโปรแกรมไว้ให้ แรกเริ่มก็เป็นเรื่องของการ Recycle กล่องนม ตามด้วยโปรแกรมอบรมธรรมะของยุวพุทธฯ โดยพระอาจารย์แตงโม พระอาจารย์แตงไทย และพระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ ที่สามารถดึงเด็กดอย ให้เข้าใจหลักธรรมของพุทธศาสนา ด้วยธรรมมะที่เด็กดอยเข้าใจได้ไม่ยากนัก พร้อมกันนั้นก็ได้มีอาจารย์ของยุวพุทธิกสมาคมฯ หลายท่าน มาให้ความรู้กับน้องในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การทำสมาธิ การสวดมนต์ การเดินจงกรม ก่อนออกจากยุวพุทธฯ ก็ได้รับของที่พี่ ๆ ทีมงานในยุวพุทธฯ ร่วมกันสละทรัพย์ซื้อของฝากให้น้อง ๆ เป็นจำนวนมาก และมีผู้ใหญ่ใจดี ๓ ท่านได้บริจาคเงินรวมเป็นเงิน ๒,๕๐๐ บาท ให้น้อง ๆ ทำกิจกรรม ผ่านครูต้อม โดยเงินนี้ได้นำไปเป็นค่าเข้าชม ศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเลจำนวน ๑,๗๒๕ และที่เหลือได้คืนครูหนึ่งไป เป็นค่าทำป้ายผ้าและค่าเดินทางน้อง ๆ ลงมาจากดอย
๒๒ เมษายน ๕๓ หลังจากนั้นเดินทางออกจากยุวพุทธิกสมาคมฯ ก็เดินทางไปโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา โดยน้อง ๆ ได้รับความรู้ต่าง ๆ มากมายนอกจากความรู้แล้ว พี่ ๆ ที่โครงการหลวงยังได้ซื้อนมอัดเม็ดแจกให้น้อง ๆ และฝากมาอีกหลายกล่อง เพื่อนำไปฝากเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้
ก่อนออกเดินทางจากโครงการหลวงฯ ครูแก้ว ก็ตามมาสมทบพร้อมด้วยอาหารกลางวัน ที่อร่อยมาก ผัดซีอิ้วกินแบบไม่ต้องปรุงเลย ก่อนเข้าไปวัดพระแก้วและตามด้วยมิวเซี่ยมสยาม ตามหาต้นตอของความเป็นคนไทย มาจากไหน (ขออภัยไม่มีภาพ กล้องถ่ายในที่มืดไม่ได้เนื่องจาก Flash เสีย) ในกิจกรรมวันนี้ เรามีพี่แอ๊ะและน้องชาลี Mrs. Stevie, Mr. Peter ร่วมคณะไปกับน้อง ๆ อย่างมีความสุข ท่ามกลางแดดร้อน และความเหน็ดเหนื่อยของเด็ก ๆ สลับไปห้องแอร์บ้าง หลังจากเดินตากแดดจัดในวัดพระแก้ว ด้วยการไปมิวเซี่ยมสยาม ตามหาร่องรอยคนไทย มาจากไหน ?
ตกเย็นเข้าบ้านพักกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ถนนประชาสงเคราะห์ ๘ ก็มีครูพี่จิ๋ว ครูพี่แอ๊ด ครูจิ๊บชาย ครูจิ๊บหญิง ครูกั๊ก ครูก้อย ครูยิ้ม ครูพี่นุช พี่ปุ๊ก ผู้ใหญ่ใจดีได้นำอาหาร เป็นผัดซีอิ้ว ที่อร่อยไม่แพ้กันกับมื้อกลางวัน ไอศครีม และสมทบเงิน เป็นค่าอาหารให้น้อง ๆ โดยในกิจกรรมคืนนี้น้อง ๆ เด็กดอย ก็ได้แสดง วัฒนธรรมชนเผ่า ขอบคุณพี่ ๆ เนื่องจากสถานที่นี้มีคณะต่าง ๆ อยู่ด้วย จึงทำกิจกรรมได้ในเวลาอันจำกัด
๒๓ เมษายน ๒๕๕๓ โดยมีอาสารุ่น ๑ ครูจิ๊บชาย ครูจิ๊บหญิง รุ่น ๒ ครูก้อย ครูส้ม และครูยิ้ม ครูบ๊ะจ่าง อาสาคนใหม่ ขึ้นรถไปกับน้อง ๆ ในวันนี้จำเป็นต้องเปลี่ยนโปรแกรม เนื่องจากมีเหตุการทางการเมือง จากเดิมจะให้น้อง ๆ ไปขึ้นรถไฟฟ้า BTS เปลี่ยนไปศูนย์วิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรีแทนในช่วงเช้า เด็ก ๆ ได้เห็นปลาฉลาม ปลากระเบน ที่บินในน้ำอย่างสนใจ เป็นเวลากว่า ๑ ชั่วโมง อย่างเต็มอิ่ม จากนั้นได้เดินทางไปเขาเขียว แวะทานอาหารกลางวันก่อนเข้า โดยการสนับสนุนของงบประมาณทำเสื้อ 4dekdoi ขายในการระดมทุนของครูอาสา โดยมีครูฉิง ครูก้อย ครูใหม่ ครูส้ม ครูแคท ครูหนุ่ย ครูแอม ครูมาร์ค และอาสาท่านอื่น ๆ ที่ทำงานอย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อให้น้องได้มีโอกาส ได้เข้ามากรุงเทพฯ และไปเที่ยวทะเลในครั้งนี้
เข้าเรียนรู้ตามโปรแกรมของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ก็มีคณะคุณสุรัตน์ผู้สนับสนุนจากระยอง และพี่ผู้ใหญ่ใจดีจากระยอง เข้ามาสมทบหลายท่าน ก็เข้าฟังบรรยายจากวิทยากรประจำโครงการ จากนั้นพาน้อง ๆ ไปดูโชว์ของสัตว์แสนรู้ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี น้อง ๆ สุดประทับใจ จากนั้นก็พาน้อง ๆ นั่งรถชมรอบ ๆ สวนสัตว์ในระยะทางประมาณ ๗ กิโลเมตร และเข้าเรียนรู้ในฐานเศรฐกิจพอเพียงพร้อมทำกิจกรรมใบงาน ในการเข้าห้องพัก โดยคุณสาวิตรี (พี่โจ้) ผู้ใหญ่ใจดีอีกคนในระยองได้ประสานงานให้น้อง ๆ ได้พักในห้องแอร์อย่างดี ในศูนย์ฝึกอบรมของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งค่าที่พักในวันนี้แพงพอสมควร โดยพี่โจ้อยากให้น้อง ๆ ได้พักผ่อนให้เต็มที่และพักอย่างสบายในห้องแอร์ ที่น้อง ๆ นั่งรถร้อนมาตลอดกิจกรรมหลายวัน อาหารเย็นน้ำพริกกะปิอร่อยอีกแล้ว หลังจากที่ไปอยู่ดอยมาไม่ได้เจอน้ำพริกอร่อย ๆ แบบนี้มานาน
ตกกลางคืนพี่วิทยากร ก็นำน้อง ๆ ไปส่องดูสัตว์หากินกลางคืน มีกวางออกมาเต็มถนนน้อง ๆ ตื่นตาตื่นใจที่ได้เห็นสัตว์อย่างใกล้ชิต พร้อมทั้งเสือในกรงหลังจากที่ตอนกลางวัน เสือหลบนอน และน้อง ๆ ได้กลับไปพักผ่อนในเวลา ๒๑.๐๐ น.
๒๔ เมษายน ๒๕๕๓ ตอนเช้าน้อง ๆ ได้กินอาหารแบบฝรั่งเป็นขนมปัง กาแฟ และเครื่องดื่ม ตามด้วยข้าวต้ม ก่อนจะออกไปสัมผัสและให้อาหารสัตว์อย่างใกล้ชิด เข้าไปในกรงนกขนาดใหญ่ ที่ปล่อยนก ไว้เสมือนธรรมชาติ ในกิจกรรมวันสุดท้ายของสวนสัตว์เปิดเขาเขียว หลังจากนั้นเดินทางไปสวนผลไม้ที่ตำบลตะพงต้องบอกว่า ได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ มีดนตรีไทย อาหารการกิน ผลไม้อย่างเต็มที่ โดยคุณแม่ คุณพ่อ คุณลุง คุณป้า น้าอา และคุณกุ้งจาก Bayer จัดมาให้กับน้อง ๆ เด็กดอยอย่างประทับใจ พร้อมกับกิจกรรมต้อนรับ อย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน ว่าจะยิ่งใหญ่อลังการ จากคณะตำบลตะพงเด็ก ๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งกับกิจกรรมเหยียบลูกโป่งและเก้าอี้ดนตรีที่จัดไว้ให้ น้อง ๆ พร้อมกับ Happy Birthday ย้อนหลังให้ครูชลิตตาจากอมก๋อย สุดประทับใจ โดยคุณอดุลย์ พิธีกรอารมณ์ดี
หลังจากออกจากสวนผลไม้ ก็เข้าค่ายสุรสิงหนาท ก็ได้รับการประสานงานโดยคุณโบว์ จาก Bayer ให้ได้เข้าพักในค่าย พร้อมทั้งเล่นน้ำทะเล โดยมีพี่ ๆ ทหารคอยเป็นกั้น เป็นแนวไว้ไม่ให้น้อง ๆ ลงไปลึกเกินไป เนื่องจากทะเลที่นี่มีความลึกและตลิ่งชายหาดชันและลึก ตอนเย็นมีบ้านลมจากน้าเต้ย ผู้ใหญ่ใจดีในให้น้อง ๆ ได้เล่นฟรี ๆ ก่อนทานอาหารเย็น มากมายกินร่วมกันทั้งผู้ใหญ่ใจดี ที่เป็นผู้ให้และเด็กดอย ที่เป็นผู้รับก็กินกันไม่หมด ตามด้วยกิจกรรมการแสดงขอบคุณของน้อง ๆ ให้กับผู้ใหญ่ใจดี และเกมส์จากครูอาสา เข้านอนเวลา ๒๒.๑๐ น. หลับเป็นตายเลย เหนื่อย….
๒๕ เมษายน ๒๕๕๓ ตื่นตอนเช้าเด็ก ๆ ไปชมชายหาดตอนเช้า เดินเล่นอย่างสนุก แล้วก็มีผู้ใหญ่ใจดีอีกคณะ นำอาหารเช้ามาให้น้อง ๆ ได้อิ่มท้องกันอีกและน้อง ๆ แสดงขอบคุณอีกครั้ง ก่อนจะเดินทางไปอำเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี เพื่อชมเรือบันทุกเครื่องบินจักกรีนฤเบศร แต่ต้องเปลี่ยนไปพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธินแทน เนื่องจากเรือติดภารกิจ ไม่สามารถขึ้นเยี่ยมชมได้ ที่พิพิธภัณฑ์น้อง ๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับอาวุธที่แสดง ได้เห็นเครื่องบิน และยุทธภัณฑ์ต่าง ๆพร้อมทั้งประวัติความเป็นมาของ กรมนาวิกโยธิน และภารกิจต่าง ๆ ขอบคุณพี่ทหารใจดี ที่ประสานงานให้น้อง ๆ เด็กดอยได้ใช้ห้องน้ำฟรี ที่หาดเตยงาม
หลังออกจากพิพิธภัณฑ์นาวิกโยธิน ก็ไปหาดเตยงามซึ่ง อยู่ใกล้ ๆ กัน ก่อนเด็ก ๆ ได้เล่นน้ำตั้งแต่บ่าย มีคุณอ้อยผู้ใหญ่ใจดีอีกท่านนำข้าวมันไก่ มาเป็นอาหารมื้อเที่ยงให้น้อง ๆ เด็ก ๆ ชอบกินมาก ตอนเย็นยังมีคนขอกินจนหมด เล่นน้ำกันตั้งแต่บ่ายโมง ๑๓.๐๐ น. ถึง ๑๕.๓๐ น. เด็ก ๆ ก็ทยอยขึ้นจากน้ำมาเองโดยไม่ต้องเรียกให้เหนื่อยต้องขอบคุณครูอาสารุ่น ๑ ครูจิ๊บชาย ครูจิ๊บหญิง ครูอาสารุ่น ๒ ครูก้อย ครูส้ม ครูใหม่ ครูแคท และครูอาสาคนใหม่ ครูยิ้ม ครูบ๊ะจ่าง ที่มาช่วยดูแลเด็ก ๆ ขณะเล่นน้ำด้วย หลังจากอุ่นท้องด้วยข้าวเหนียวปลาหมึกทอดของคุณเคน ก็ถ่ายรูปร่วมกัน ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับจากหาดเตยงามในเวลา ๑๖.๓๐ น.
ถึงอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท สายพานรถขาด ทำให้ต้องเสียเวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงครึ่ง ในการรอสายพานมาเปลี่ยน แล้วต้องไปหยุดที่จังหวัดกำแพงเพชรอีกครั้ง เนื่องจากคนขับรถต้องพักเพราะขับรถคนเดียว มาเช้าที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง ถีงอำเภอฮอด ๐๙.๓๐ น. ถึงอมก๋อยเวลา ๑๒.๐๐ น. หลังลงรถได้สักพัก ฝนตกลงมาทำให้ความร้อนหายไป กลายเป็นความสดชื่นขึ้นมาแทน น้อง ๆ ที่อมก๋อย ก็ขึ้นรถกระบะ กลับบ้านบนดอย ส่วนน้อง ๆ ที่ไชยปราการ รถมาส่งที่สถานีขนส่งช้างเผือกในตัวเมืองเชียงใหม่ และกลับถึงไชยปราการ ในเวลา ๑๘.๐๐ น. โดยสวัสดิภาพทุกคน
ขอบคุณผู้สนับสนุน ผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านที่มีส่วนให้โครงการนี้สำเร็จลุลวงเรียบร้อยโดยดี ทั้งที่เอ่ยถึงและไม่ได้เอ่ยถึง และที่จำชื่อไม่ได้อีกหลายท่านเพราะมีผู้ใจดีเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เคยเจอกันแล้วในกิจกรรมครั้งที่ ๑ และที่เพิ่งเจอกันในกิจกรรมครั้งที่ ๒ นี้ ทุกท่านมีส่วนสร้างประสบการณ์ให้กับน้อง ๆ บนดอย แม้ว่ากิจกรรมครั้งนี้จะพลาดสถานที่สำคัญไป ๒ ที่คือ รถไฟฟ้า BTS และเรือบันทุกเครื่องบินจักรกรีนฤเบศร แต่ประสบการณ์จากที่อื่น ๆ ที่น้องได้รับก็คุ้มค่ากับการเดินทาง อันวิเศษสุดของน้อง ๆ ในกิจกรรมครั้งนี้
มีเสียงกระซิบมาจากหลายท่านว่า ครั้งต่อไปจะต้องดีกว่านี้แน่ และเราจะมีผู้ใหญ่ใจดีมาสนับสนุนกิจกรรม มากขึ้นกว่าเดิม