โหยหาธรรมชาติ จิตวิญญาณครูบ้านนอกบนดอย

httpv://www.youtube.com/watch?v=6VBooz-RJ48 เพราะอมก๋อย เป็นอำเภอห่างไกล จึงได้มีโอกาสดูวีดีทัศน์เรื่องครูบ้านนอกเป็นครั้งแรก หลังจากที่หนังได้ฉายจริงมาเป็นปี ในหนังเรื่องนี้มีประโยคเด็ด ๆ ของครูบ้านนอก ในฐานะที่เป็นคนบ้านเดียวกับคนทำหนัง มันเป็นคำพูดที่กินใจ เข้าถึงหัวจิตหัวใจของครูดอย เพราะความที่เคยลำบาก เมื่อถึงเวลาที่เราก้าวผ่านจุดนั้นมา จึงอยากหวนกลับไปช่วยคนที่เคยลำบากเหมือนกัน แต่ความลำบากบนดอย มันลำบากเอามาก ๆ ต่างกับชีวิตจริง ที่เคยลำบากมา ต่างกับในหนังเรื่องครูบ้านนอก ความที่เคยอยู่กับชนบท ธรรมชาติ เมื่อถึงวันนึง ทุกคนก็ต้องคิดถึงอดีต คิดถึงความขมขื่น คิดถึงความสุข ในความยากลำบาก ความสุขในยามยากท่ามกลางธรรมชาติ มันเป็นความสุขที่คนในยุคปัจจุบันต่างโหยหา น้ำท่วมมาเป็นเดือน จากภาคเหนือ ลงภาคกลาง เข้าเมืองกรุงเทพฯ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนในครั้งนี้ หรือนี่เป็นอีกครั้งที่จะทำให้คนคิดถึงธรรมชาติ โหยหาธรรมชาติกันมากขึ้น

ครบรอบ ๑ ปี ขึ้นดอยที่อมก๋อย

ถ้าเดือนมกราคม คือเดือนที่ครบรอบก่อตั้งเว็บไซต์ เดือนมีนาคม ก็ถือเป็นเดือนที่ครบรอบของการขึ้นไปอยู่เป็นครูดอยบ้านแม่ฮองกลาง ที่อมก๋อย ครบรอบ ๑ ปี ที่ผ่านมา เกิดสิ่งต่าง ๆ มากมาย บางเรื่องเป็นเรื่องที่ต้องเก็บประสบการ บางเรื่องเป็นแค่เหตการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แต่ไม่เคยคิดท้อ ถึงแม้จะเจ็บตัวตอนรถล้มถนนลื่น หรือมีแผลเป็นติดตัว  เหนื่อยบ้าง ๑ ปีผ่านไป ขอบคุณทุกคำแนะนำและกำลังใจ ที่ทำให้มาถึงวันนี้ ขอบคุณทุกการสนับสนุน ที่ทำให้เด็ก ๆ ได้มีเสียงหัวเราะ ผู้ใหญ่ในชุมชนได้มีรอยยิ้ม ขอบคุณทุกคำเตือน ที่ทำให้ไม่ลืมเป้าหมาย ในการทำงาน ขอบคุณทุกคำพูด ที่ทำให้คิด ถึงแม้จะสะกิดใจบ้าง แต่นั้นถือเป็นคำแนะนำ ขอบคุณ Facebook ที่ทำให้ผู้ใหญ่ใจดีต่างทราบถึงกิจกรรม และระดมความช่วยเหลือเข้ามา ขอบคุณครูฉิง admin ใจดีที่นอกจากช่วยเริ่มสร้าง page แล้วยังคอยเป็นผู้ดูแล และให้คำปรึกษาแนะนำต่าง ๆ ตลอดมา ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ใจดีพร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือ ไปยังเด็กดอยด้อยโอกาสที่อมก๋อย ความดีใด ๆ ที่เกิดขึ้นขอยกให้เป็นความดีของผู้ใหญ่ใจดีทุกท่าน ที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวดี

ลาพักร้อน มาสร้างโรงเรียนดิน

ปกติกิจกรรมครูอาสาจะเป็นรูปแบบ “ลาพักร้อน มาสอนเด็กดอย” จะให้อาสาสมัคร หรือที่เรียกว่า “ครูอาสา” จัดกิจกรรมกับเด็กเป็นส่วนใหญ่ แต่ด้วยสภาพอาคารของ ศศช.บ้านแม่ฮองกลาง ที่สร้างมาหลายปี เริ่มผุพังตามกาลเวลา ปลวกกินไม้ “ลาพักร้อน มาสร้างบ้านโรงเรียนดิน” จึงเกิดขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ให้อาสาสมัคร ได้ร่วมกิจกรรมที่สร้างสรรสิ่งดี ๆ ไว้ให้กับศูนย์การเรียนชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” บ้านแม่ฮองกลาง จึงเป็นที่มาของการปรับปรุงเป็นโรงเรียนดินในครั้งนี้ ถึงจะเป็นครั้งที่ ๒ ในกิจกรรมที่อมก๋อย แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับคณะอาสาได้ไม่น้อย หลาย ๆ ท่านได้กลับมาอีกครั้งจากที่เคยมาแล้วในรุ่นบุกเบิก เมื่อเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ ซึ่งการกลับมาครั้งนี้ ไม่ได้มาตัวคนเดียว ก็ไปชักชวนกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ชอบงานอาสาเพื่อสังคมคล้าย ๆ กัน ชอบความลำบาก ชอบลุย ๆ เหมือน ๆ กันมา รุ่นบุกเบิก ก็ต้องแปลกใจ ที่มีอาสาที่เป็นถึง ผอ.โรงเรียน แห่งหนึ่งในเขตบางซื้อ กรุงเทพฯ มีข้าราชการครู มีข้าราชการทหาร และเภสัชกร เข้าร่วมกิจกรรม ต้องแปลกใจอีกครั้ง

วันเด็ก เรื่องเล็ก แต่ยิ่งใหญ่

การพาลูกหลานไปร่วมงานวันเด็ก มีการแสดงของเด็ก ๆ มีการแจกของขวัญ พาลูกจูงหลานไปดูสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทางทหารจัดแสดง หรือการพาลูกหลานไปเที่ยวตามสวนสัตว์ หรืออำเภอ เทศบาลต่าง ๆ จัดขึ้น ปีต่อไปก็พาเด็ก ๆ ลูกหลานไปเที่ยวอีก นั่นเป็นดูจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ สำหรับวิถีชีวิตคนในเมือง จากคำบอกเล่าของอดีตผู้ใหญ่บ้าน วันเด็กปี ๒๕๕๔ ที่บ้านแม่ฮองกลางปีนี้ กลับดูยิ่งใหญ่ เทียบเคียงได้กับเมื่อหลายปีก่อน ที่เคยมีเฮลิคอปเตอร์มาลงเพื่อแจกของให้กับชาวบ้าน วัน เด็กปีนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับเด็ก ๆ และชุมชนได้ไม่น้อย ก็นอกจากมีของรางวัลมาแจกให้เด็ก ๆ อย่างทุกคนจาก ๓ ศูนย์การเรียนแล้ว ผู้ใหญ่ที่มาให้กำลังใจบุตรหลาน ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วยเพราะได้รับแจกข้าวของ พร้อมทั้งเลี้ยงอาหารกลางวันเหมือนเด็ก ๆ วันเด็กปีนี้ จึงมีความสุขกันถ้วนทั่ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ใจดี ที่นำสิ่งของมามอบให้ เด็กร่วมกิจกรรม และผู้คนในชุมชน ที่บอกยิ่งใหญ่ คือนอกจากของแจกของรางวัลแล้ว ยังมีวงดนตรีมาขับกล่อมตลอดงาน ทำเอาเด็ก ๆ บางส่วนจำเพลงที่วงดนตรีร้องให้ฟัง มาขับร้องหลังจากคณะได้เดินทางกลับไปแล้ว ด้าน การเดินทางเข้าพื้นที่ในวันที่ ๑๔ ม.ค.

มิติใหม่…แพทย์ไทยอมก๋อย

ปกติผมจะไม่ค่อยได้ไปหาหมอสักเท่าไหร่ เพราะเคยทำงานโรงพยาบาลมาก่อน รู้ว่าคนที่ไปหาหมอพบแพทย์ เพราะเป็นที่พึ่งหรือความหวังสุดท้ายแล้ว ไม่ใช่เพราะผมเก่งเหมือนหมอ แต่ผมสังเวชและเห็นใจคนป่วยที่ต้องไปพบหมอแต่ละครั้ง ทั้งตัวผู้ป่วย และญาติต่างดูเศร้าหมอง ผมจึงพยายามพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด ก่อนไปหาหมอที่เป็นทางเลือกสุดท้าย อมก๋อยหลายต่อหลายคน ไม่เคยได้ยิน ไม่รู้ว่าอยู่จังหวัดไหนในประเทศไทย ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อ ไม่มีถนนผ่านไปจังหวัดอื่น ไม่มีอีกหลายอย่างที่อำเภออื่น ๆ เขามี และเพิ่งจะมี  7-Eleven ข้าราชการหรือคนของหน่วยงานราชการ เมื่อถูกย้ายมาอมก๋อย จึงรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ที่ต้องมาอยู่ในดินแดนที่กันดารแห่งนี้ รู้สึกเหมือนถูกลงโทษ กักขัง หน่วงเหนี่ยวจากความศิวิไลซ์ แต่ก็เป็นเรื่องจริง แม้แต่ครู กศน.ในจังหวัดเชียงใหม่ ถ้ามีปัญหาในการทำงานที่อำเภออื่น ๆ อมก๋อยเป็นอำเภอแรกที่จะถูกส่งมาอยู่ ในมุมดี ๆ ของอมก๋อยคือข้าราชการ/พนักงานราชการที่บรรจุใหม่ ถูกส่งมาเริ่มงาน เพื่อฝึกให้ผ่าน มอก. ก่อน (มาตรฐานอมก๋อย) หากผ่านอมก๋อยไปแล้วจะไปอยู่ที่ไหนก็ได้ในประเทศไทยนี้ ต้นเดือนมกราคม ได้มีโอกาสพานักเรียนมาหาหมอ ด้วยอาการแปลก ๆ ในสายตาผมคือ ตรงข้อเข่าขาพับด้านใน มีก้อนน้ำนูนออกมา ผมก็ตกใจกลัวว่าโตขึ้นจะเป็นอะไรมากกว่าที่มองเห็น เพราะถามเด็กดูแล้วบอกไม่เจ็บ กดดูก็นิ่ม ๆ เมื่อมาถึงคุณหมอใจดี ดูแป๊บเดียว

4DekDoi ครบรอบ 1 ปี

httpv://www.youtube.com/watch?v=4S3DhsWN2Ew As we approach the one year anniversary of 4DekDoi, we would like to take a moment to thank you for all of your supports 🙂 4DekDoi ครบรอบ 1 ปีแล้วค่ะ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของ 4DekDoi มาโดยตลอดนะคะ

เตาแกส เตาไฟ เตาอะไรทำไมร้อน

ต้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ คณะของพี่สุรัตน์จากจังหวัดระยอง ผู้ใหญ่ใจดีที่เคยสนับสนุนและเกื้อกูลตลอดมา ก็ได้มาเยี่ยมที่บ้านแม่ฮองกลาง การมาในครั้งนี้ของคณะพี่สุรัตน์ ได้นำมาซึ่งความอบอุ่นมามอบให้กับชุมชน นั้นคือการมอบผ้าห่มให้กับชาวบ้านแม่ฮองกลาง ๔๕ หลังคาเรือน โดยได้รับกันอย่างทั่วหน้าทุกหลังคาเรือน สำหรับเด็ก ๆ เองก็ได้รับรอยยิ้ม เหมือนเคยเพราะได้รับรองเท้าแตะคนละคู่ เป็นของฝากจากผู้ใหญ่ใจดี คณะคุณสุรัตน์ยังได้ฝากขนม และของฝากจากระยองไว้ ทำให้เด็ก ๆ บ้านแม่ฮองกลางสดชื่นตั้งใจเรียนและขยันขันแข็งในการทำงานตลอดเดือนธันวาคม แต่ที่สร้างความแปลกประหลาดและงุนงง ให้กับเด็ก ๆ และชุมชนอยู่ไม่น้อยคือเตาแกสที่คณะพี่สุรัตน์ได้ซื้อบริจาคไว้ให้ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ได้รับสนับสนุนในศูนย์การเรียน ที่ว่าสร้างความงุนงง คือเด็ก ๆ และชาวบ้านสงสัยว่ามันติดไฟได้อย่างไร ไฟที่ติดทำไมเป็นสีฟ้า ไฟสีฟ้าทำไมมีความร้อน ผมต้องใช้เวลาอยู่ประมาณ ๒ สัปดาห์ในการสอนเด็กใช้งาน แต่ไม่อยากให้ใช้งานบ่อย เนื่องจากจะทำให้เด็กหลงลืมรากเหง้า และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ ให้ใช้เฉพาะเมื่อยามจำเป็นเท่านั้น และเนื่องจากการขนส่งลำบาก กว่าจะเอาขึ้นมาได้ ๗๐ กว่ากิโล แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อเด็ก ๆ ใช้เตาแกสเป็น บอกให้ต้มน้ำเด็ก ๆ ก็จะใช้เตาแกสตลอด จนต้องออกกฎว่าห้ามใช้เตาแกส ถ้าจะใช้เตาแกสทำอะไรต้องแจ้งครูทุกครั้ง ซึ่งแน่นอน ผมไม่ค่อยอนุญาตให้เด็กใช้เตาแกส เพราะจะเกิดความเคยชิน

บุกเบิกอมก๋อย…เป็นครั้งแรก

นับตั้งแต่กิจกรรม “ครูอาสาลาพักร้อนมาสอนเด็กดอย” เกิดขึ้น ครั้งนี้มีหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นที่นี่…เป็นครั้งแรก จัดกิจกรรมครูอาสา ที่อมก๋อย เป็นครั้งแรกครูอาสาหลาย ๆ ท่านมาอมก๋อย เป็นครั้งแรกครูอาสาบางท่าน มาภาคเหนือ เป็นครั้งแรกมีครูอาสา เป็นข้าราชการครู เข้าร่วมกิจกรรม เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ที่เป็น ผอ.โรงเรียน เข้าร่วมกิจกรรม เป็นครั้งแรกมีครูอาสาหลาย ๆ ท่านเห็นความลำบากสุด ๆ ในชีวิต เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ที่เป็นนายจ้าง และลูกจ้าง มาร่วมกิจกรรมด้วยกัน เป็นครั้งแรกมีครูอาสา ร่วมเป่าเทียนวันเกิด ในกิจกรรม และเป็นครั้งแรกที่ ครูศักดิ์ จาก ศศช. บ้านห้วยบง ที่ขับรถยนต์พาครูอาสาขึ้นไปบ้านแม่ฮองกลาง  😛 (ปกติไปถึงแค่น้ำห้วย) เมื่อเป็นครั้งแรก มันจึงเกิดความผิดพลาด เล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ้นรถเมล์จากเชียงใหม่ที่คาดว่าจะมาส่งครูอาสาในเวลาไม่เกิน ๑๒.๓๐ – ๑๒.๕๐ กว่าจะมาถึงอมก๋อย ก็ปาเข้าไป ๑๓.๑๕ ช้าไป ครึ่งชั่วโมงรถรับส่งครูอาสาที่เตรียมไว้

เดินทางเข้าไปแม่ฮอง…โหด

จากปากคำอาสาอดีตนักศึกษารามคำแหง “แม่ฮอง…โหด” เป็นคำพูดของคุณเปิ้ล และเพื่อน ๆ ทีมคณะอาสาที่เข้ามาเมื่อวันที่ ๒๖ พ.ย. ๒๕๕๓ และได้กลับออกจากหมู่บ้านเมื่อ ๒๙ พ.ย. ๕๓ ระยะเวลา ๔ วัน ๓ คืน ของอาสาคณะนี้ การเดินทาง ๕๐ กิโลเมตรแรก สามารถพบได้ทั่วไปในประเทศไทย ๑๒ กิโลเมตรหลัง พบได้เฉพาะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูง เป็นภูเขาดินเหนียว จุดที่มีน้ำขังในฤดูฝน จะทำให้ถนนเละ ส่วนจุดที่เป็นเนินเมื่อถูกน้ำฝนเข้าไปจะทำให้ถนนลื่นสุด ๆ ขับรถมอเตอร์ไซด์ขึ้นดอย ครูดอยจึงต้องคอยเตือนตนเองตลอดเวลา ว่าห้ามแตะเบรค มิฉะนั้นมีสิทธิ์ล้มแบบไม่รู้ตัว ๘ กิโลเมตรสุดท้าย จากบ้านห้วยบงเข้าไปบ้านแม่เกิบ บ้านแม่ฮองกลาง เป็น ๘ กิโลเมตรที่สร้างความประหวั่นพรั่นพรึง ให้กับคณะอาสาคณะนี้พอสมควร เนื่องจากพื้นที่แบบนี้มีเฉพาะที่ กลุ่มบ้านแม่ฮองเท่านั้น เมื่อย่างเข้าฤดูหนาว น้ำระเหยดินแห้ง การเดินทางก็สะดวกขึ้นมามากพอสมควร จากปกติที่เดินทาง ๔-๕ ชั่วโมง ก็ใช้เวลาเพียงแค่ ๓-๔ ชั่วโมง ค่ายนี้ถึงแม้จะมีผู้ร่วมทีมแค่

Copy Protected by Chetan's WP-Copyprotect.